สอบท้องถิ่น 2568 อปท. ประกาศผลสอบท้องถิ่น

ตำแหน่ง	เหนือ 1	เหนือ 2	กลาง 1	กลาง 2	กลาง 3	อีสาน 1	อีสาน 2	อีสาน 3	ใต้ 1	ใต้ 2	รวม
1. เจ้าพนักงานธุรการ	3	16	26	15	11	4	5	11	15	1	107
2. เจ้าพนักงานทะเบียน	3	1	3	1	1	-	-	-	3	-	12
3. เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี	22	67	86	97	40	62	34	20	42	16	486
4. เจ้าพนักงานการคลัง	1	2	5	7	3	-	1	2	4	2	27
5. เจ้าพนักงานพัสดุ	22	81	76	102	40	21	24	33	54	6	459
6. เจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้	25	57	102	92	40	15	27	34	76	27	495
7. เจ้าพนักงานประชาสัมพันธ์	-	-	3	1	-	-	1	1	3	-	9
8. เจ้าพนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยว	-	1	3	-	1	-	-	1	-	-	6
9. เจ้าพนักงานการเกษตร	2	1	1	1	1	2	-	2	-	-	10
10. เจ้าพนักงานสัตวบาล	-	-	-	-	-	-	-	1	-	-	1
11. เจ้าพนักงานสวนสาธารณะ	2	1	3	1	1	1	-	1	1	3	14
12. เจ้าพนักงานสาธารณสุข	24	26	33	50	24	18	8	26	42	21	272
13. เจ้าพนักงานสุขาภิบาล	-	2	5	3	4	-	-	2	3	3	22
14. เจ้าพนักงานทันตสาธารณสุข	2	2	-	1	1	-	-	2	6	1	15
15. สัตวแพทย์	1	3	4	5	-	-	-	1	1	1	16
16. เจ้าพนักงานฉุกเฉินการแพทย์	1	-	2	9	-	-	-	-	7	-	19
17. นายช่างโยธา	124	162	143	181	72	79	56	61	179	116	1173
18. นายช่างเขียนแบบ	9	12	9	20	4	6	8	9	38	11	126
19. นายช่างสำรวจ	8	30	9	16	8	6	13	9	21	9	129
20. นายช่างผังเมือง	-	1	3	3	1	-	1	-	3	-	12
21. นายช่างเครื่องกล	2	5	1	7	1	-	-	-	13	1	30
22. นายช่างไฟฟ้า	3	5	10	14	11	4	5	6	25	4	87
23. เจ้าพนักงานประปา	-	5	4	3	15	1	9	6	36	16	95
24. นายช่างศิลป์	-	-	-	-	-	-	-	-	-	1	1
25. เจ้าพนักงานศูนย์เยาวชน	-	2	-	4	1	-	2	1	1	1	12
26. เจ้าพนักงานพัฒนาชุมชน	-	-	5	2	-	-	-	4	-	-	11
27. เจ้าพนักงานเทศกิจ	-	-	6	3	1	1	-	-	-	-	11
28. เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย	12	27	25	24	26	5	1	2	33	5	160
29. นักจัดการงานทั่วไป	2	1	12	1	-	-	-	-	1	-	17
30. นักทรัพยากรบุคคล	3	4	5	4	1	2	-	2	3	-	24
31. นักวิเคราะห์นโยบายและแผน	7	4	7	8	4	-	1	3	12	-	46
32. นักจัดการงานทะเบียนและบัตร	2	-	2	5	-	-	-	-	-	-	9
33. นิติกร	18	27	31	48	25	9	8	11	26	3	206
34. นักวิชาการคอมพิวเตอร์	2	4	8	9	2	-	2	3	5	3	38
35. นักวิชาการเงินและบัญชี	18	16	31	40	16	7	20	12	32	4	196
36. นักวิชาการคลัง	7	4	9	4	6	6	-	1	7	-	44
37. นักวิชาการจัดเก็บรายได้	12	17	22	41	15	9	12	14	31	7	180
38. นักวิชาการพัสดุ	22	24	27	34	12	13	14	18	35	17	216
39. นักวิชาการตรวจสอบภายใน	86	165	110	102	42	22	57	26	117	52	779
40. นักวิชาการพาณิชย์	1	-	-	-	1	-	-	-	-	-	2
41. นักประชาสัมพันธ์	1	2	3	-	1	-	-	2	2	-	11
42. นักพัฒนาการท่องเที่ยว	-	-	1	-	-	-	-	-	-	-	1
43. นักวิชาการเกษตร	3	7	3	3	-	2	1	2	1	-	22
44. นักวิทยาศาสตร์	-	-	-	-	-	-	-	-	2	-	2
45. นักวิชาการสวนสาธารณะ	1	1	2	4	-	-	-	-	-	1	9
46. นักวิชาการสาธารณสุข	40	29	30	32	25	8	7	14	58	4	247
47. พยาบาลวิชาชีพ	-	1	7	4	1	-	-	-	12	1	26
48. นักกายภาพบำบัด	-	-	-	1	-	-	-	-	-	-	1
49. นักอาชีวบำบัด	-	-	-	-	-	-	-	-	-	1	1
50. นักวิชาการสุขาภิบาล	3	2	11	22	8	4	1	3	11	1	66
51. นักโภชนาการ	-	-	-	-	-	-	-	-	-	1	1
52. นักวิชาการสิ่งแวดล้อม	-	3	1	1	1	-	-	-	-	-	6
53. นายสัตวแพทย์	1	-	2	2	-	-	-	1	1	-	7
54. นักฉุกเฉินการแพทย์	-	-	2	7	-	-	2	-	4	-	15
55. นักสาธารณสุข	-	-	-	-	-	-	1	-	-	-	1
56. วิศวกรโยธา	53	62	46	52	44	23	27	102	81	44	534
57. วิศวกรสุขาภิบาล	-	1	1	-	-	1	-	-	1	-	4
58. สถาปนิก	2	8	7	10	6	-	-	-	7	5	45
59. นักผังเมือง	-	-	-	-	-	-	-	-	1	-	1
60. วิศวกรไฟฟ้า	-	-	1	1	-	-	-	-	1	-	3
61. วิศวกรเครื่องกล	1	2	2	2	1	-	-	1	-	1	10
62. นักจัดการงานช่าง	4	5	5	13	2	5	5	5	6	4	54
63. นักพัฒนาชุมชน	1	3	-	1	-	2	-	-	1	-	8
64. นักสังคมสงเคราะห์	1	6	6	6	1	-	1	6	6	-	33
65. นักวิชาการศึกษา	11	13	19	8	8	-	-	3	32	2	96
66. บรรณารักษ์	1	-	1	2	-	-	-	-	-	-	4
67. นักวิชาการวัฒนธรรม	-	-	-	4	-	-	3	1	-	-	8
68. นักสันทนาการ	1	7	8	11	5	1	6	1	11	3	54
69. ภัณฑารักษ์	-	-	-	1	-	-	-	1	-	-	2
70. นักพัฒนาการกีฬา	-	1	1	-	-	-	-	-	2	-	4
71. นักจัดการงานเทศกิจ	1	-	3	-	-	-	-	-	-	-	4
72. นักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย	1	-	4	1	-	-	-	-	1	-	7
73. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาวัดผลและประเมินผล	-	-	1	-	-	-	-	-	1	-	2
74. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาจิตวิทยาและการแนะแนว	-	-	-	-	-	-	-	-	1	-	1
75. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาภาษาไทย	4	17	19	19	11	-	-	1	24	1	96
76. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาภาษาอังกฤษ	4	15	13	11	6	-	-	1	15	1	66
77. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์	3	19	17	28	8	1	-	2	35	2	115
78. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาคหกรรม	-	2	1	1	1	2	-	-	5	-	12
79. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชา วิทยาศาสตร์	-	4	1	2	1	-	-	-	3	1	12
80. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาเคมี	-	1	1	-	-	2	-	-	4	-	8
81. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาชีววิทยา	-	1	1	-	1	2	-	1	2	-	8
82. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาฟิสิกส์	-	2	1	4	-	4	-	1	4	-	16
83. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาสังคมศึกษา	-	5	2	5	-	-	-	-	15	-	27
84. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาพลศึกษา	-	1	-	-	-	-	-	-	2	1	4
85. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาบรรณารักษ์	-	-	-	2	-	-	-	-	1	-	3
86. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาเกษตร	-	2	-	-	-	3	-	-	-	-	5
87. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาศิลปะ	-	4	2	2	3	-	-	-	4	2	17
88. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชานาฏศิลป์	-	1	-	3	1	1	11	-	9	-	26
89. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาดนตรี	-	4	-	1	2	3	-	-	2	-	12
90. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาดนตรีไทย	-	1	1	5	-	-	-	-	3	-	10
91. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาดนตรีสากล	-	-	2	6	-	1	-	-	5	-	14
92. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาคอมพิวเตอร์	-	-	2	1	-	-	-	-	1	-	4
93. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาปฐมวัย/การศึกษาปฐมวัย/อนุบาลศึกษา (ปฏิบัติหน้าที่ ณ โรงเรียน)	23	21	32	23	8	3	3	10	24	14	161
94. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาประถมศึกษา	1	3	4	8	9	1	-	-	9	1	36
95. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาภาษาจีน	1	3	2	7	1	1	1	-	2	-	18
96. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาเทคโนโลยีทางการศึกษา	-	-	1	-	-	-	-	-	-	-	1
97. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาการโรงแรม	-	-	-	1	-	-	-	-	-	-	1
98. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาการตลาด	-	-	-	1	-	-	-	-	-	-	1
99. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิขาอุตสาหกรรมศิลป์	-	-	-	1	-	1	-	-	-	-	2
100. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาแนะแนว	-	1	-	4	-	2	-	-	5	-	12
101. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาการบัญชี	-	-	-	1	-	-	-	-	-	-	1
102. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี	-	1	-	4	-	-	-	-	-	-	5
103. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาปฐมวัย (ปฏิบัติการสอนศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก)	105	104	105	103	81	72	98	92	128	92	980
104. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา	-	-	2	-	-	-	-	-	-	-	2
105. ครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาทัศนศิลป์	-	-	2	-	-	-	-	-	1	-	3
อัตราแรกรับรวมรายภาค/เขต »	713	1140	1209	1389	667	438	476	575	1421	514	8542

ปรับปรุงล่าสุด 25 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 10:00 น.

ประกาศคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น

เรื่อง รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๖๘

ด้วยคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) จะดําเนินการสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นในตําแหน่งต่าง ๆ อาศัยอํานาจตามความในประกาศ ก.จ. เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการสอบแข่งขัน พ.ศ. ๒๕๖๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกาศ ก.ท. เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการสอบแข่งขัน พ.ศ. ๒๕๖๐ และที่แก้ไข เพิ่มเติม ประกาศ ก.อบต. เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการสอบแข่งขัน พ.ศ. ๒๕๖๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบมติคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) ในการประชุม ครั้งที่ ๑/๒๕๖๘ เมื่อวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ จึงประกาศรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็น ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ดังต่อไปนี้

๑. ตําแหน่งที่เปิดรับสมัคร อัตราว่างที่จะบรรจุแต่งตั้ง เงินเดือนที่จะได้รับ

คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) เปิดรับสมัครสอบแข่งขัน โดยแบ่งเป็นกลุ่มภาค/เขต จํานวน ๑๐ เขต (เพื่อประโยชน์ในการสมัครสอบแข่งขัน การขึ้นบัญชี และการบรรจุ แต่งตั้ง) ตามตําแหน่งและอัตราที่ว่างของแต่ละกลุ่มภาค/เขต ดังนี้

๑.๑ กลุ่มภาคกลาง เขต ๑ (ประกอบด้วยจังหวัดชัยนาท จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดอ่างทอง) โดยมีตําแหน่ง ที่เปิดรับสมัคร อัตราว่างที่จะบรรจุแต่งตั้ง เงินเดือนที่จะได้รับตาม “บัญชีตําแหน่งที่เปิดรับสมัครภาคกลาง เขต ๑ แนบท้ายประกาศนี้

๑.๒ กลุ่มภาคกลาง เขต ๒ (ประกอบด้วยจังหวัดจันทบุรี จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี จังหวัดตราด จังหวัดนครนายก จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสระแก้ว) โดยมี ตําแหน่งที่เปิดรับสมัคร อัตราว่างที่จะบรรจุแต่งตั้ง เงินเดือนที่จะได้รับตาม “บัญชีตําแหน่งที่เปิดรับสมัครภาคกลาง เขต ๒” แนบท้ายประกาศนี้

๑.๓ กลุ่มภาคกลาง เขต ๓ (ประกอบด้วยจังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดนครปฐม จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดราชบุรี จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสุพรรณบุรี) โดยมีตําแหน่งที่เปิดรับสมัคร อัตราว่างที่จะบรรจุแต่งตั้ง เงินเดือนที่จะได้รับตาม “บัญชีตําแหน่งที่เปิดรับ สมัครภาคกลาง เขต ๓” แนบท้ายประกาศนี้

๑.๔ กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต ๑ (ประกอบด้วยจังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดมหาสารคาม) โดยมีตําแหน่งที่เปิดรับสมัคร อัตราว่าง ที่จะบรรจุแต่งตั้ง เงินเดือนที่จะได้รับตาม “บัญชีตําแหน่งที่เปิดรับสมัครภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต ๑ แนบท้ายประกาศนี้

๑.๕ กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต ๒ (ประกอบด้วยจังหวัดมุกดาหาร จังหวัดยโสธร จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดอํานาจเจริญ จังหวัดอุบลราชธานี) โดยมีตําแหน่ง ที่เปิดรับสมัคร อัตราว่างที่จะบรรจุแต่งตั้ง เงินเดือนที่จะได้รับตาม “บัญชีตําแหน่งที่เปิดรับสมัครภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ เขต ๒” แนบท้ายประกาศนี้

๑.๖ กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต ๓ (ประกอบด้วยจังหวัดนครพนม จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดเลย จังหวัดสกลนคร จังหวัดหนองคาย จังหวัดหนองบัวลําภู จังหวัดอุดรธานี) โดยมีตําแหน่ง ที่เปิดรับสมัคร อัตราว่างที่จะบรรจุแต่งตั้ง เงินเดือนที่จะได้รับตาม “บัญชีตําแหน่งที่เปิดรับสมัครภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ เขต ๓” แนบท้ายประกาศนี้

๑.๗ กลุ่มภาคเหนือ เขต ๑ (ประกอบด้วยจังหวัดเชียงราย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดน่าน จังหวัดพะเยา จังหวัดแพร่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดลําปาง จังหวัดลําพูน) โดยมีตําแหน่งที่เปิดรับสมัคร อัตราว่างที่จะบรรจุแต่งตั้ง เงินเดือนที่จะได้รับตาม “บัญชีตําแหน่งที่เปิดรับสมัครภาคเหนือ เขต ๑ แนบท้ายประกาศนี้

๑.๔ กลุ่มภาคเหนือ เขต ๒ (ประกอบด้วยจังหวัดกําแพงเพชร จังหวัดตาก จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดพิจิตร จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดสุโขทัย จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดอุทัยธานี) โดยมีตําแหน่ง ที่เปิดรับสมัคร อัตราว่างที่จะบรรจุแต่งตั้ง เงินเดือนที่จะได้รับตาม “บัญชีตําแหน่งที่เปิดรับสมัครภาคเหนือ เขต ๒” แนบท้ายประกาศนี้

๑.๙ กลุ่มภาคใต้ เขต ๑ (ประกอบด้วยจังหวัดกระบี่ จังหวัดชุมพร จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดพังงา จังหวัดภูเก็ต จังหวัดระนอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี) โดยมีตําแหน่งที่เปิดรับสมัคร อัตราว่างที่จะ บรรจุแต่งตั้ง เงินเดือนที่จะได้รับตาม “บัญชีตําแหน่งที่เปิดรับสมัครภาคใต้ เขต ๑” แนบท้ายประกาศนี้

๑.๑๐ กลุ่มภาคใต้ เขต ๒ (ประกอบด้วยจังหวัดตรัง จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดพัทลุง จังหวัดยะลา จังหวัดสงขลา จังหวัดสตูล) โดยมีตําแหน่งที่เปิดรับสมัคร อัตราว่างที่จะบรรจุ แต่งตั้ง เงินเดือนที่จะได้รับตาม “บัญชีตําแหน่งที่เปิดรับสมัครภาคใต้ เขต ๒” แนบท้ายประกาศนี้

ลักษณะงานที่ปฏิบัติของแต่ละตําแหน่ง รายละเอียดตามที่ระบุไว้ใน “บัญชีลักษณะงาน

คุณสมบัติทั่วไป และคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่ง ของผู้มีสิทธิสมัครสอบ

ผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัติทั่วไปและไม่มีลักษณะต้องห้ามเบื้องต้นตามประกาศ คณะกรรมการกลางข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม เบื้องต้นสําหรับข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด ลงวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ประกาศคณะกรรมการกลาง พนักงานเทศบาล เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามเบื้องต้นสําหรับพนักงานเทศบาล ลงวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔ และประกาศคณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตําบล เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามเบื้องต้นสําหรับพนักงานส่วนตําบล ลงวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ดังต่อไปนี้

(๒) มีอายุไม่ต่ํากว่าสิบแปดปี

(๓) เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น

(๑) เป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง

(๒) เป็นคนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ คนวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ หรือเป็นโรคตามที่คณะกรรมการกลางข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด คณะกรรมการ กลางพนักงานเทศบาล และคณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตําบลกําหนด

(๓) เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักราชการหรือถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ตามมาตรฐานทั่วไป หรือหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการองค์การบริหาร ส่วนจังหวัด พนักงานเทศบาล และพนักงานส่วนตําบล ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารงานบุคคล ส่วนท้องถิ่นหรือตามกฎหมายอื่น

(๔) เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีจนเป็นที่รังเกียจของสังคม

(๕) เป็นกรรมการหรือผู้ดํารงตําแหน่งที่รับผิดชอบในการบริหารพรรคการเมืองหรือ

(๗) เป็นผู้เคยต้องรับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สุดให้จําคุกเพราะกระทําความผิด

ทางอาญา เว้นแต่เป็นโทษสําหรับความผิดที่ได้กระทําโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

(๔) เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่น

(๔) เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก หรือปลดออก เพราะกระทําผิดวินัยตามมาตรฐานทั่วไป หรือหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด พนักงานเทศบาล

และพนักงานส่วนตําบล ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่นหรือตามกฎหมายอื่น

(๑๐) เป็นผู้เคยถูกลงโทษไล่ออก เพราะกระทําผิดวินัยตามมาตรฐานทั่วไป หรือหลักเกณฑ์ และวิธีการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด พนักงานเทศบาล และพนักงาน ส่วนตําบล ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่นหรือตามกฎหมายอื่น

(๑๑) เป็นผู้เคยกระทําการทุจริตในการสอบเข้ารับราชการ หรือเข้าปฏิบัติงานในหน่วยงาน

สําหรับพระภิกษุหรือสามเณร ทางราชการไม่รับสมัครสอบและไม่อาจให้เข้าสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ทั้งนี้ ตามหนังสือกรมสารบรรณคณะรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร ที่ นว ๘๙/๒๕๐๑ ลงวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๐๑ และตามความในข้อ ๕ ของคําสั่งมหาเถรสมาคม ลงวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๓๘ และตามความในข้อ ๔ ของคําสั่งมหาเถรสมาคม ที่ ๑/๒๕๖๔ ลงวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๔ เรื่อง กรณีพระภิกษุสามเณรเรียนวิชา หรือสอบแข่งขัน หรือสอบคัดเลือกอย่างคฤหัสถ์ พ.ศ. ๒๕๖๔

๓.๒ คุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่ง

(๑) ผู้สมัครสอบต้องมีคุณวุฒิการศึกษาที่ ก.จ. ก.ท. ก.อบต. หรือ ก.พ. รับรองว่าตรงตาม คุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งที่สมัครสอบก่อนหรือในวันปิดรับสมัครสอบ โดยคุณวุฒิการศึกษาที่ตรงตาม คุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งมีรายละเอียดตามที่ระบุไว้ใน “บัญชีตําแหน่งที่เปิดรับสมัครภาค/เขต” ตามข้อ

(๒) ผู้สมัครสอบในตําแหน่ง “ครูผู้ช่วย” นอกจากมีคุณสมบัติตาม (๑) แล้ว ต้องมีใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพครูหรือหลักฐานที่ใช้แสดงในการประกอบวิชาชีพครูตามที่คุรุสภาออกให้เพื่อปฏิบัติหน้าที่สอนที่ยังไม่

(๓) ผู้สมัครสอบในตําแหน่ง “วิศวกรเครื่องกลปฏิบัติการ, วิศวกรไฟฟ้าปฏิบัติการ, วิศวกรโยธาปฏิบัติการ และวิศวกรสุขาภิบาลปฏิบัติการ” นอกจากมีคุณสมบัติตาม (๑) แล้วต้องมีใบอนุญาตเป็น ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมตามที่กฎหมายกําหนดที่ยังไม่หมดอายุในวันปิดรับสมัคร

(๔) ผู้สมัครสอบในตําแหน่ง “สถาปนิกปฏิบัติการ” นอกจากมีคุณสมบัติตาม (๑) แล้ว ต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมตามที่กฎหมายกําหนดที่ยังไม่หมดอายุในวันปิด

(๕) ผู้สมัครสอบในตําแหน่ง “พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ” นอกจากมีคุณสมบัติตาม (๑) แล้ว ต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสาขาการพยาบาลชั้นหนึ่ง หรือสาขาการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง

ที่ยังไม่หมดอายุในวันปิดรับสมัคร

(๖) ผู้สมัครสอบในตําแหน่ง “นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ” นอกจากมีคุณสมบัติตาม (๑) แล้ว ต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์จากสัตวแพทยสภาที่ยังไม่หมดอายุในวันปิดรับสมัคร

(๗) ผู้สมัครสอบในตําแหน่ง “นักฉุกเฉินการแพทย์ปฏิบัติการ” นอกจากมีคุณสมบัติ ตาม (๑) แล้ว ต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาฉุกเฉินการแพทย์ที่ยังไม่หมดอายุในวันปิดรับสมัคร

(๔) ผู้สมัครสอบในตําแหน่ง “นักกายภาพบําบัดปฏิบัติการ” นอกจากมีคุณสมบัติตาม (๑) แล้ว ต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขากายภาพบําบัด หรือใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพกายภาพบําบัด ของสภากายภาพบําบัดที่ยังไม่หมดอายุในวันปิดรับสมัคร

(๔) ผู้สมัครสอบในตําแหน่ง “นักสาธารณสุข” นอกจากมีคุณสมบัติตาม (๑) แล้ว ต้องมี ใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชนที่ยังไม่หมดอายุในวันปิดรับสมัคร

ทั้งนี้ สําหรับตําแหน่งที่คุณสมบัติตามมาตรฐานกําหนดตําแหน่งกําหนดให้มีใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพ ต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพตามที่กําหนดไว้ในมาตรฐานกําหนดตําแหน่งที่ยังไม่หมดอายุ ในวันปิดรับสมัคร

รับสมัครสอบทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ ๗ - ๒๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ไม่เว้น วันหยุดราชการ ที่เว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com/ หัวข้อ “สมัครสอบแข่งขัน อปท.” โดยผู้มีคุณสมบัติข้างต้นและประสงค์จะสมัครสอบแข่งขันตามเงื่อนไข หลักเกณฑ์ และวิธีการสอบที่กําหนด ให้ดําเนินการตามขั้นตอน ดังนี้

๔.๑ เข้าไปที่เว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com/ หัวข้อ “สมัครสอบแข่งขัน อปท.” ๔.๒ ให้ผู้สมัครสอบกรอกข้อมูลการสมัครให้ถูกต้องและครบถ้วน ปฏิบัติตามขั้นตอนที่กําหนด

(๑) รูปถ่ายสีหน้าตรง ไม่สวมหมวกและไม่สวมแว่นตาดํา พื้นหลังไม่มีลวดลาย ถ่ายไว้ไม่เกิน 5 เดือน ขนาด ๑ นิ้ว โดยใช้รูปแบบไฟล์รูปภาพและขนาดตามที่ระบบกําหนด ทั้งนี้ รูปถ่ายจะปรากฏบนใบสมัครสอบ บัตรประจําตัวผู้เข้าสอบสําหรับแสดงตนในการเข้าสอบ และหนังสือรับรองผลการสอบผ่านภาคความรู้ ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) กรณีที่รูปถ่ายไม่ถูกต้องอาจมีผลต่อการตรวจสอบตัวบุคคลในการเข้าสอบและหัวหน้า ผู้กํากับการสอบหรือกรรมการกํากับการสอบอาจไม่อนุญาตให้เข้าสอบ โดยถือเป็นความบกพร่องของผู้สมัครสอบเอง จะอ้างว่าระบบรับสมัครได้ทําการรับสมัครไว้แล้วไม่ได้

(๒) สําเนาบัตรประจําตัวประชาชน (ที่ยังไม่หมดอายุ)

(๔) สําเนาใบปริญญาบัตร/ประกาศนียบัตร และสําเนาระเบียนแสดงผลการศึกษา (Transcript of Records) ที่แสดงว่าเป็นผู้มีคุณวุฒิการศึกษาตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่ง ตามประกาศรับสมัคร โดยต้องสําเร็จการศึกษาและได้รับอนุมัติจากผู้มีอํานาจอนุมัติภายในวันปิดรับสมัครคือ วันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๔ ที่เป็นฉบับภาษาไทยเท่านั้น ทั้งนี้ ผู้ที่จะถือว่าเป็นผู้ที่สําเร็จการศึกษาตามหลักสูตร ระดับใด จะถือตามกฎหมาย กฎ หรือระเบียบเกี่ยวกับการสําเร็จการศึกษาตามหลักสูตรของสถานการศึกษานั้น เป็นเกณฑ์ โดยให้อัปโหลด (upload) ไฟล์ คุณวุฒิการศึกษาที่ ก.พ. ก.จ. ก.ท. ก.อบต. หรือ ก.ค.ศ. รับรอง แล้วแต่กรณี

(๕) สําเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (ต้องไม่หมดอายุ) ดังนี้

(๕.๑) สําเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูหรือหลักฐานที่ใช้แสดงในการประกอบ วิชาชีพครูตามที่คุรุสภาออกให้เพื่อปฏิบัติหน้าที่สอน (กรณีสมัครสอบตําแหน่งครูผู้ช่วย)

(๕.๒) สําเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมตามที่กฎหมาย กําหนด (กรณีสมัครสอบตําแหน่งวิศวกรเครื่องกลปฏิบัติการ วิศวกรไฟฟ้าปฏิบัติการ วิศวกรโยธาปฏิบัติการ

และวิศวกรสุขาภิบาลปฏิบัติการ)

(๕.๓) สําเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมตามที่กฎหมาย กําหนด (กรณีสมัครสอบตําแหน่งสถาปนิกปฏิบัติการ)

(๕.๔) สําเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์จากสัตวแพทยสภา (กรณีสมัครสอบตําแหน่งนายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ)

(๕.๕) สําเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสาขาการพยาบาลชั้นหนึ่ง หรือสาขา การพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง (กรณีสมัครสอบตําแหน่งพยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ)

(๕.๖) สําเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาฉุกเฉินการแพทย์ (กรณีสมัครสอบ

ตําแหน่งนักฉุกเฉินการแพทย์ปฏิบัติการ)

(๕.๗) สําเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขากายภาพบําบัด หรือใบอนุญาต เป็นผู้ประกอบวิชาชีพกายภาพบําบัดของสภากายภาพบําบัด (กรณีสมัครสอบตําแหน่งนักกายภาพบําบัดปฏิบัติการ) (๕.๔) สําเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน (กรณีสมัครสอบ

ตําแหน่งนักสาธารณสุขปฏิบัติการ)

- ใบรับรองผลการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจําการ

(๒) สําเนาหลักฐานอื่น ๆ เช่น ใบสําคัญการสมรส ใบเปลี่ยนชื่อ – นามสกุล (ในกรณีชื่อ – นามสกุล ในหลักฐานการสมัครไม่ตรงกัน)

* สําเนาหลักฐานตามข้อ ๔.๒ (๒) - ๔.๒ (๒) ให้อัปโหลด (upload) ประเภทของ ไฟล์เป็น PDF ขนาดไม่เกิน ๑ เมกะไบต์ (๑ MB) เอกสารทุกฉบับให้ผู้สมัครเขียนคํารับรองว่า “สําเนาถูกต้อง” ลงลายมือชื่อและลายมือชื่อตัวบรรจง วันที่ พร้อมเขียนชื่อตําแหน่งที่สมัครสอบ กํากับไว้ทุกหน้า

กรณีผู้สมัครไม่ได้อัปโหลด (upload) รูปถ่ายและเอกสารประกอบการสมัครจะไม่สามารถ

ทั้งนี้ เมื่อยืนยันข้อความที่ได้กรอกแล้ว ระบบจะออกใบตรวจสอบข้อมูลผู้สมัครและแบบฟอร์ม การชําระเงินค่าธรรมเนียมในการสมัครโดยอัตโนมัติ

๔.๓ พิมพ์แบบฟอร์มการชําระเงินลงในกระดาษขนาด A4 จํานวน ๑ แผ่น หรือจัดเก็บข้อมูล ไว้ในรูปแบบ File หากต้องการพิมพ์แบบฟอร์มการชําระเงินในภายหลังในกรณีได้ยืนยันการสมัครสอบแล้ว แต่ไม่สามารถจัดเก็บข้อมูลไว้ในรูปแบบ File หรือไม่สามารถพิมพ์แบบฟอร์มการชําระเงินได้ ผู้สมัครสอบ สามารถค้นหาข้อมูลการสมัครสอบและแบบฟอร์มการชําระเงินนั้น ได้ที่เว็บไซต์ตามข้อ ๔.๑ หัวข้อ “ตรวจ สถานะการสมัครสอบ” โดยกรอกเลขประจําตัวประชาชน ๑๓ หลัก ทั้งนี้ ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลการสมัครสอบ ที่ได้ยืนยันในระบบไปแล้ว

๔.๔ ค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ จํานวน ๔๓๐ บาท ประกอบด้วย

(๑) ค่าธรรมเนียมสอบ จํานวน ๔๐๐ บาท

(๒) ค่าธรรมเนียมธนาคารรวมค่าบริการทางอินเทอร์เน็ต จํานวน ๓๐ บาท ค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบจะไม่จ่ายคืนให้ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ การสมัครสอบจะมี ผลสมบูรณ์เมื่อมีการชําระค่าธรรมเนียมในการสมัครภายในระยะเวลาที่กําหนด

๔.๕ นําแบบฟอร์มการชําระเงินตามข้อ ๔.๓ ไปชําระเงินค่าธรรมเนียมตั้งแต่วันที่ ๗ - ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ได้ที่ บมจ. ธนาคารกรุงไทย โดยสามารถชําระได้ ๓ ช่องทาง ดังนี้

(๑) การชําระผ่านทางเคาน์เตอร์ บมจ.ธนาคารกรุงไทย (Teller Payment) ให้ผู้สมัคร นําแบบฟอร์มการชําระเงินไปชําระเงินที่เคาน์เตอร์ บมจ. ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ ๗ - ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ภายในวันและเวลาทําการของธนาคาร และให้เก็บหลักฐานการชําระเงินไว้เป็นหลักฐานด้วย

(๒) การชําระผ่านทางแอปพลิเคชัน ดังนี้

(๒.๑) การชําระเงินผ่านทางแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ของ บมจ. ธนาคารกรุงไทย โดยผู้สมัครซึ่งมีบัญชีธนาคารกรุงไทยที่ได้ลงทะเบียน (Register) ขอใช้บริการ Krungthai NEXT แล้ว สามารถ เลือกชําระเงินผ่านทางระบบแอปพลิเคชัน และปฏิบัติตามขั้นตอนที่ระบบกําหนดไว้ โดยชําระเงินได้ตั้งแต่วันที่ วันที่ ๗ - ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ภายในเวลา ๒๒.๐๐ น. และให้เก็บหลักฐานการชําระเงินไว้เป็นหลักฐานด้วย

(๒.๒) การชําระเงินผ่านทางแอปพลิเคชัน เป๋าตัง โดยผู้สมัครที่ได้ลงทะเบียน (Register) ขอใช้บริการแอปพลิเคชัน เป๋าตัง แล้ว สามารถนํารหัส QR Code ไปทํารายการชําระเงินผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตัง และปฏิบัติตามขั้นตอนที่ระบบกําหนดไว้ โดยชําระเงินได้ตั้งแต่ วันที่ ๗ - ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ภายในเวลา

๒๒.๐๐ น. และให้เก็บหลักฐานการชําระเงินไว้เป็นหลักฐานด้วย

(๓) การชําระเงินผ่านทางเครื่อง ATM ของ บมจ. ธนาคารกรุงไทย

ผู้สมัครที่มีบัตร ATM ของ บมจ. ธนาคารกรุงไทย สามารถเลือกชําระเงิน โดยนํา แบบฟอร์มการชําระเงินจากระบบไปทํารายการชําระเงินผ่านเครื่อง ATM ของ บมจ. ธนาคารกรุงไทย และ ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ระบบกําหนดไว้ โดยชําระเงินได้ตั้งแต่วันที่ ๗ - ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ภายในเวลา ๒๒.๐๐ น. และให้เก็บหลักฐานการชําระเงินไว้เป็นหลักฐานด้วย

๔.๖ ผู้สมัครที่ชําระค่าธรรมเนียมสอบแล้ว จะได้รับเลขประจําตัวสอบ (การกําหนด เลขประจําตัวสอบโดยการสุ่ม) และสามารถเข้าไปพิมพ์บัตรประจําตัวผู้เข้าสอบ ซึ่งจะประกาศให้ทราบในวัน ประกาศรายชื่อผู้สมัคร วัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบเกี่ยวกับการสอบ ที่เว็บไซต์ https://dla- local2568.thaijobjob.com/ หัวข้อ “พิมพ์บัตรประจําตัวผู้เข้าสอบ” แล้วพิมพ์บัตรประจําตัวผู้เข้าสอบ ที่มีเลขประจําตัวสอบลงในกระดาษ A4 โดยผู้สมัครสอบต้องลงลายมือชื่อในบัตรประจําตัวผู้เข้าสอบให้ครบถ้วน (โดยผู้สมัครสอบต้องตรวจสอบภาพถ่ายให้ตรงกับผู้สมัครสอบ) เพื่อนําไปแสดงตนหรือส่งมอบให้เจ้าหน้าที่คุมสอบ

๔.๗ ผู้สมัครสอบที่มีความพิการทางการเห็น (ตาบอดทั้งสองข้าง) ตามประกาศกระทรวง การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๒ เรื่อง ประเภทและหลักเกณฑ์ความพิการ ข้อ ๔ (๑) ให้ระบุในการกรอกข้อมูลการสมัครด้วย เพื่อจะจัดให้เข้าสอบที่ศูนย์สอบกรุงเทพมหานคร หรือ ในสถานที่ ที่คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) กําหนดเท่านั้น

๕.๑ ในการสมัครสอบครั้งนี้ ผู้สมัครสอบจะสมัครสอบผ่านทางอินเทอร์เน็ต ได้เพียงครั้งเดียว เท่านั้น เมื่อสมัครสอบแล้วจะไม่สามารถแก้ไขข้อความใด ๆ ได้อีก

๕.๒ ผู้สมัครสอบเลือกสมัครสอบได้เพียง ๑ ตําแหน่ง และเลือกกลุ่มภาค/เขต ที่สมัครสอบได้ เพียง ๑ กลุ่มภาค/เขต เมื่อสมัครแล้วจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขไม่ได้ (ผู้สมัครจึงต้องละเอียด รอบคอบ และตรวจสอบ การพิมพ์ชื่อ - สกุล เลขประจําตัวประชาชน และหมายเลขโทรศัพท์ ให้ถูกต้อง)

๕.๓ ผู้สมัครสอบจะต้องเป็นผู้มีคุณวุฒิการศึกษาตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่ง ที่สมัครสอบตามข้อ ๓.๒ โดยต้องเป็นผู้สําเร็จการศึกษาและได้รับการอนุมัติจากผู้มีอํานาจอนุมัติภายใน วันปิดรับสมัคร คือ วันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๔ ทั้งนี้ การสําเร็จการศึกษาตามหลักสูตรระดับใด จะถือตาม กฎหมาย กฎหรือระเบียบเกี่ยวกับการสําเร็จการศึกษาตามหลักสูตรของสถานศึกษานั้นเป็นเกณฑ์

๕.๔ การสมัครสอบตามประกาศนี้ ถือว่าผู้สมัครเป็นผู้ลงลายมือชื่อ และรับรองความถูกต้อง ของข้อมูลดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ และแก้ไขเพิ่มเติม ดังนั้น หากผู้สมัครจงใจกรอกข้อมูลอันเป็นเท็จ อาจมีความผิดทางอาญาฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๗

๕.๕ ผู้สมัครสอบต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบและรับรองตนเองว่า เป็นผู้มีคุณสมบัติ ตรงตามประกาศรับสมัครสอบ และต้องกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ให้ถูกต้องครบถ้วนตรงตามความเป็นจริง ในกรณีที่มีความผิดพลาดอันเกิดจากผู้สมัคร หรือหากภายหลังผู้สมัครรายใดมีคุณสมบัติไม่ถูกต้องครบถ้วน

หรือตรวจพบว่าเอกสารและหรือหลักฐานคุณวุฒิซึ่งผู้สมัครสอบนํามายื่นไม่ตรงหรือไม่เป็นไปตามประกาศ รับสมัครสอบ ให้ถือว่าผู้สมัครสอบเป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการสมัครสอบครั้งนี้มาตั้งแต่ต้นและไม่มีสิทธิ ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่ง และจะไม่คืนค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ

๕.๖ หากปรากฏหลักฐานว่า ผู้สมัครมีการสมยอมให้มีการเรียกรับเงิน เพื่อแลกกับการช่วยเหลือ ให้เป็นผู้สอบแข่งขันได้ หรือทุจริตการสอบแข่งขันต้องถูกปรับให้ตก และถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้สมัครสอบแข่งขัน เป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นไปตลอดชีวิต รวมทั้งต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญา

5. การประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าสอบ วัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบเกี่ยวกับการสอบ

คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) จะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ เข้าสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) และภาคความรู้ความสามารถเฉพาะสําหรับตําแหน่ง (ภาค ข) และ จะประกาศ วัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบเกี่ยวกับการสอบ ทางเว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com/ โดยผู้สมัครสอบสามารถตรวจสอบชื่อผู้มีสิทธิสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ภาคความรู้ความสามารถที่ ใช้เฉพาะสําหรับตําแหน่ง (ภาค ข) และสถานที่สอบของตนเองได้ ที่หัวข้อ “ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าสอบภาค ก ภาค ข และสถานที่สอบ

ให้ผู้สมัครสอบพิมพ์บัตรประจําตัวผู้เข้าสอบ (ซึ่งมีรายละเอียดตําแหน่งที่สมัครสอบ วัน เวลา สถานที่สอบ รูปถ่ายผู้สมัครสอบ เลขประจําตัวสอบ) ทางเว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com/ หัวข้อ “พิมพ์บัตรประจําตัวผู้เข้าสอบ” ซึ่งจะประกาศให้ทราบในภายหลัง

หลักสูตรและวิธีการสอบแข่งขัน มี ๓ ภาค รายละเอียดตามที่ได้กําหนดไว้ใน “หลักสูตรและ

วิธีการสอบแข่งขัน” แนบท้ายประกาศนี้ ดังนี้

๗.๑ ภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) (คะแนนเต็ม ๑๐๐ คะแนน)

เป็นการสอบโดยข้อสอบปรนัย โดยคํานึงถึงระดับความรู้ความสามารถที่ต้องการ ตามระดับตําแหน่ง ดังนี้ (รายละเอียดตามที่ได้กําหนดไว้ใน “หลักสูตรและวิธีการสอบแข่งขัน” แนบท้ายประกาศนี้ (๑) วิชาความสามารถในการศึกษาวิเคราะห์และสรุปเหตุผล กําหนดคะแนนเต็ม ๓๐ คะแนน

ให้ทดสอบความสามารถในการศึกษา วิเคราะห์และสรุปเหตุผลโดยการให้สรุปความหรือ

ให้จับประเด็นในข้อความหรือเรื่องราว หรือให้วิเคราะห์เหตุการณ์หรือสรุปเหตุผลทางการเมือง เศรษฐกิจหรือ สังคม หรือให้หาแนวโน้มหรือความเปลี่ยนแปลงที่น่าจะเป็นไปตามข้อมูลหรือสมมติฐาน หรือให้ศึกษาวิเคราะห์ และสรุปเหตุผลอย่างอื่น ซึ่งจะทดสอบความสามารถอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างก็ได้

(๒) วิชาความรู้พื้นฐานในการปฏิบัติราชการ กําหนดคะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน

ให้ทดสอบความรู้เกี่ยวกับกฎหมายระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน กฎหมายว่าด้วย การจัดตั้งและอํานาจหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล องค์การบริหารส่วนตําบล และเมืองพัทยา กฎหมายว่าด้วยการกําหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอํานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กฎหมายว่าด้วย การบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น ระเบียบงานสารบรรณ การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี วิธีปฏิบัติราชการ ทางปกครอง และระเบียบกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติราชการ ตลอดจนเจตคติและจริยธรรมสําหรับ

ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น

(๓) วิชาภาษาไทย กําหนดคะแนนเต็ม ๒๐ คะแนน

ให้ทดสอบความรู้และความสามารถในการใช้ภาษา โดยการให้สรุปความและหรือ ตีความจากข้อความสั้น ๆ หรือบทความ และให้พิจารณาเลือกใช้ภาษาในรูปแบบต่าง ๆ จากคํา หรือกลุ่มคํา

ๆ ประโยคหรือข้อความสั้น ๆ หรือให้ทดสอบโดยการอย่างอื่นที่เหมาะสมกับการทดสอบความรู้ความสามารถดังกล่าว

(๔) วิชาภาษาอังกฤษ กําหนดคะแนนเต็ม ๒๐ คะแนน

ให้ทดสอบความรู้ความสามารถภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐาน ทางการอ่านการสรุปความ

การตีความ หรือให้ทดสอบโดยการอย่างอื่นที่เหมาะสมกับการทดสอบความรู้ความสามารถดังกล่าว

๗.๒ ภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะสําหรับตําแหน่ง (ภาค ข) (คะแนนเต็ม ๑๐๐ คะแนน)

เป็นการสอบโดยข้อสอบปรนัย โดยผู้สมัครสอบในตําแหน่งใดต้องสอบความรู้ ความสามารถในทางที่จะใช้ในการปฏิบัติงานในหน้าที่โดยเฉพาะสําหรับตําแหน่งนั้น รายละเอียดตามที่ได้กําหนด ไว้ใน “หลักสูตรและวิธีการสอบแข่งขัน” แนบท้ายประกาศนี้

๗.๓ ภาคความรู้ความเหมาะสมกับตําแหน่ง (ภาค ค) (คะแนนเต็ม ๑๐๐ คะแนน)

เป็นการประเมินบุคคลเพื่อพิจารณาความเหมาะสมกับตําแหน่งหน้าที่ จากประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทํางานและพฤติกรรมที่ปรากฏทางอื่นของผู้เข้าสอบและจากการสัมภาษณ์ ทั้งนี้ อาจใช้วิธีการอื่นใดเพิ่มเติมอีกก็ได้ เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในด้านต่างๆ เช่น ความรู้ที่อาจใช้ประโยชน์ ในการปฏิบัติงานในหน้าที่ ความสามารถ ประสบการณ์ ท่วงทีวาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติ จริยธรรมและ คุณธรรม การปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงาน รวมทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ และบุคลิกภาพอย่างอื่น เป็นต้น รายละเอียดตามที่ได้กําหนดไว้ใน “หลักสูตรและวิธีการสอบแข่งขัน”

ทั้งนี้ ผู้สมัครสอบทุกตําแหน่งต้องสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) และ ภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะสําหรับตําแหน่ง (ภาค ข) ก่อน แล้วจึงให้ผู้สอบผ่านภาคความรู้ความสามารถ ทั่วไป (ภาค ก) และภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะสําหรับตําแหน่ง (ภาค ข) ตามเกณฑ์ในข้อ ๙ แล้ว จะต้องยื่นหลักฐานเข้าสอบภาคความรู้ความเหมาะสมกับตําแหน่ง (ภาค ค) ต่อไป โดยจะประกาศรายชื่อ ผู้มีสิทธิเข้าสอบภาคความเหมาะสมกับตําแหน่ง (ภาค ค) วัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบวิธีการสอบ ในภายหลังทางเว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com/ หัวข้อ “ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าสอบภาค ค

๔. หลักฐานและเอกสารที่ต้องยื่นในวันสอบ

๔.๑ วันสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) และภาคความรู้ความสามารถที่ใช้ เฉพาะสําหรับตําแหน่ง (ภาค ข) ต้องนําหลักฐานต่อไปนี้มาแสดงต่อกรรมการหรือเจ้าหน้าที่คุมสอบเพื่อเข้าสอบ

หากไม่นํามาแสดงกรรมการหรือเจ้าหน้าที่คุมสอบจะไม่อนุญาตให้เข้าสอบโดยเด็ดขาด

(๑) บัตรประจําตัวผู้เข้าสอบที่พิมพ์จากอินเทอร์เน็ต ตามข้อ 5

(๒) บัตรประจําตัวประชาชน หรือบัตรประจําตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบัตรประจําตัว ข้าราชการกลาโหม หรือบัตรประจําตัวทหารกองประจําการ ซึ่งปรากฏรูปถ่าย ลายมือชื่อ และเลขประจําตัว ประชาชน ๑๓ หลักที่ชัดเจน และยังไม่หมดอายุ หากไม่มีบัตรประจําตัวประชาชนหรือ บัตรประจําตัวเจ้าหน้าที่ ของรัฐ หรือบัตรประจําตัวข้าราชการกลาโหม หรือบัตรประจําตัวทหารกองประจําการดังกล่าว ให้ใช้เอกสาร รับรองรายการบัตรประจําตัวประชาชนฉบับจริง (นายทะเบียนรับรอง)

ทั้งนี้ หากเลขประจําตัวประชาชน ๑๓ หลัก ไม่ตรงกับฐานข้อมูลการสมัครสอบ จะไม่ อนุญาตให้เข้าสอบ แต่หากตรวจพบหลังจากเริ่มเวลาสอบแล้ว ผู้สอบรายนั้นจะต้องยุติการสอบโดยต้องนั่งอยู่ ในห้องสอบนั้นจนกว่าจะหมดเวลาสอบ และจะไม่ได้รับการตรวจให้คะแนน

(๓) หลักฐานอื่น ๆ เช่น ใบสําคัญการสมรส ใบเปลี่ยนชื่อ – นามสกุล (ในกรณีชื่อ - นามสกุล

๔.๒ วันสอบภาคความรู้ความเหมาะสมกับตําแหน่ง (ภาค ค) เฉพาะผู้มีสิทธิเข้าสอบ ภาคความรู้ความเหมาะสมกับตําแหน่ง (ภาค ค) ต้องยื่นและส่งมอบหลักฐานและเอกสารให้เจ้าหน้าที่คุมสอบ ในวันสอบภาคความรู้ความเหมาะสมกับตําแหน่ง (ภาค ค) ดังนี้

(๑) บัตรประจําตัวผู้เข้าสอบที่พิมพ์จากอินเทอร์เน็ต ตามข้อ 5

(๒) ใบสมัครสอบที่พิมพ์จากอินเทอร์เน็ต ลงลายมือชื่อในใบสมัครให้เรียบร้อย จํานวน ๑ ฉบับ

(๓) สําเนาบัตรประจําตัวตามข้อ ๔.๑ (๒) และบัตรประจําตัวตามข้อ ๔.๑ (๒) (ตัวจริง) ซึ่งปรากฏรูปถ่าย และเลขประจําตัวประชาชน ๑๓ หลักที่ชัดเจน และยังไม่หมดอายุ จํานวน ๑ ฉบับ

(๔) สําเนาทะเบียนบ้าน จํานวน ๑ ฉบับ

(๕) สําเนาใบปริญญาบัตร/ประกาศนียบัตร และสําเนาระเบียนแสดงผลการศึกษา (Transcript of Records) ที่แสดงว่าเป็นผู้มีคุณวุฒิการศึกษาตรงตามประกาศรับสมัคร โดยต้องสําเร็จ การศึกษาและได้รับอนุมัติจากผู้มีอํานาจอนุมัติภายในวันปิดรับสมัครคือวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๘ จํานวนอย่างละ ๒ ฉบับ ทั้งนี้ ผู้ที่จะถือว่าเป็นผู้ที่สําเร็จการศึกษาตามหลักสูตรระดับใด จะถือตามกฎหมาย กฎหรือระเบียบเกี่ยวกับการสําเร็จการศึกษาตามหลักสูตรของสถานการศึกษานั้นเป็นเกณฑ์

(๖) สําเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (ต้องไม่หมดอายุ) จํานวน ๒ ฉบับ ดังนี้

(๖.๑) สําเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูหรือหลักฐานที่ใช้แสดงในการประกอบ วิชาชีพครูตามที่คุรุสภาออกให้เพื่อปฏิบัติหน้าที่สอน (กรณีสมัครสอบตําแหน่งครูผู้ช่วย

(๖.๒) สําเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมตามที่กฎหมาย กําหนด (กรณีสมัครสอบตําแหน่งวิศวกรเครื่องกลปฏิบัติการ วิศวกรไฟฟ้าปฏิบัติการ วิศวกรโยธาปฏิบัติการ และวิศวกรสุขาภิบาลปฏิบัติการ )

(๖.๓) สําเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมตามที่กฎหมาย

กําหนด (กรณีสมัครสอบตําแหน่งสถาปนิกปฏิบัติการ)

(๖.๔) สําเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์จากสัตวแพทยสภา (กรณีสมัครสอบตําแหน่งนายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ)

(๖.๕) สําเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสาขาการพยาบาลชั้นหนึ่ง หรือสาขา การพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง (กรณีสมัครสอบตําแหน่งพยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ)

(5.5) สําเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาฉุกเฉินการแพทย์ (กรณีสมัครสอบ

ตําแหน่งนักฉุกเฉินการแพทย์ปฏิบัติการ)

(๖.๗) สําเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขากายภาพบําบัด หรือใบอนุญาต เป็นผู้ประกอบวิชาชีพกายภาพบําบัดของสภากายภาพบําบัด (กรณีสมัครสอบตําแหน่งนักกายภาพบําบัดปฏิบัติการ) (๖.๘) สําเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน (กรณีสมัครสอบ

ตําแหน่งนักสาธารณสุขปฏิบัติการ)

ทั้งนี้ สําหรับตําแหน่งที่คุณสมบัติตามมาตรฐานกําหนดตําแหน่งกําหนดให้มีใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพ ต้องส่งสําเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพตามที่กําหนดไว้ในมาตรฐานกําหนดตําแหน่งที่ยังไม่ หมดอายุในวันปิดรับสมัคร

(๗) ใบรับรองแพทย์ซึ่งออกให้ไม่เกิน ๑ เดือน และแสดงว่าไม่เป็นโรคต้องห้าม ตามประกาศคณะกรรมการกลางข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด เรื่อง กําหนดโรคที่เป็นลักษณะต้องห้าม เบื้องต้นสําหรับข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. ๒๕๖๖ ลงวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๖ ประกาศ คณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล เรื่อง กําหนดโรคที่เป็นลักษณะต้องห้ามเบื้องต้นสําหรับพนักงานเทศบาล พ.ศ. ๒๕๖๖ ลงวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๖ ประกาศคณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตําบล เรื่อง กําหนดโรค ที่เป็นลักษณะต้องห้ามเบื้องต้นสําหรับพนักงานส่วนตําบล พ.ศ. ๒๕๖๖ ลงวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๖ ดังต่อไปนี้

(๓.๑) โรคเท้าช้างในระยะที่ปรากฏอาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคม (๓.๒) โรคติดยาเสพติดให้โทษ

(๗.๔) โรคติดต่อร้ายแรงหรือโรคเรื้อรังที่ปรากฏอาการเด่นชัดหรือรุนแรงและ

เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานในหน้าที่ตามที่คณะกรรมการกลางข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด คณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล และคณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตําบลกําหนด หรือที่ ก.พ. กําหนด

การตรวจโรคดังกล่าวให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกลาง

ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นกําหนด หรือวิธีการที่ ก.พ. กําหนดโดยอนุโลม แบบสามารถดาวน์โหลดได้

(๘) เอกสารทางทหาร พร้อมสําเนาอย่างละ ๒ ฉบับ คือ

- ใบรับรองผลการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจําการ

(๔) สําเนาหลักฐานอื่น ๆ เช่น ใบสําคัญการสมรส ใบเปลี่ยนชื่อ – นามสกุล (ในกรณีชื่อ – นามสกุล

ในหลักฐานการสมัครไม่ตรงกัน) อย่างละ ๑ ฉบับ

* สําเนาหลักฐาน เอกสารทุกฉบับให้ผู้สมัครเขียนคํารับรองว่า “สําเนาถูกต้อง” ลงลายมือชื่อและลายมือชื่อตัวบรรจง วันที่ พร้อมเขียนชื่อตําแหน่งที่สมัครสอบและเลขประจําตัวสอบ กํากับไว้มุมบนด้านขวาของสําเนาเอกสารทุกหน้า***

ผู้สมัครใดไม่ยื่นหลักฐานหรือเอกสารข้อใดข้อหนึ่ง ไม่มีสิทธิเข้าสอบ***

ผู้สอบแข่งขันได้ ต้องเป็นผู้สอบผ่านภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ได้คะแนนไม่ต่ํากว่า ร้อยละ 50 โดยมีเงื่อนไขว่า วิชาภาษาอังกฤษต้องได้คะแนนไม่ต่ํากว่าร้อยละ ๕๐ ด้วย สําหรับผู้สอบผ่านภาค ความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) สํานักงาน ก.จ. ก.ท. และ ก.อบต. จะออกหนังสือรับรองผลการสอบผ่าน ภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ซึ่งสามารถนําหนังสือรับรองผลการสอบผ่านภาคความรู้ความสามารถ ทั่วไป (ภาค ก) ไปใช้กับการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการของคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขัน พนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) ได้ โดยสามารถใช้ได้ตลอดไป เว้นแต่คณะกรรมการกลางข้าราชการหรือพนักงาน ส่วนท้องถิ่น (ก.จ. ก.ท. และ ก.อบต.) กําหนดเป็นอย่างอื่น

ผู้ที่ได้รับหนังสือรับรองผลการสอบผ่านภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ในตําแหน่ง

ที่บรรจุและแต่งตั้งในระดับปริญญาตรี ให้สามารถนํามาใช้สมัครสอบแข่งขันหรือบรรจุและแต่งตั้งในตําแหน่ง ที่ต่ํากว่าระดับปริญญาตรีได้

โดยผู้สอบแข่งขันได้ ต้องเป็นผู้สอบผ่านภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะสําหรับตําแหน่ง (ภาค ข) และภาคความรู้ความเหมาะสมกับตําแหน่ง (ภาค ค) แต่ละภาคได้คะแนนไม่ต่ํากว่าร้อยละ 50

การขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้

การขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ จะขึ้นบัญชีเป็นกลุ่มภาค/เขต ตามที่ผู้สอบแข่งขันได้ ได้ยื่น สมัครสอบไว้ โดยในแต่ละกลุ่มภาค/เขต ให้นําคะแนนจากการสอบภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะสําหรับ ตําแหน่ง (ภาค ข) และความความรู้ความเหมาะสมกับตําแหน่ง (ภาค ค) มารวมกัน แล้วจัดเรียงลําดับที่จาก ผู้ได้คะแนนรวมสูงสุดลงมาตามลําดับ

กรณีที่มีผู้สอบได้คะแนนรวมเท่ากัน ให้ผู้สอบได้คะแนนภาคความรู้ความเหมาะสมกับ

ตําแหน่ง (ภาค ค) มากกว่าเป็นผู้อยู่ในลําดับที่สูงกว่า ถ้าได้คะแนนภาคความรู้ความเหมาะสมกับตําแหน่ง (ภาค ค) เท่ากัน ให้ผู้สมัครที่ชําระเงินค่าธรรมเนียมการสมัครสอบก่อนเป็นผู้อยู่ในลําดับที่สูงกว่า โดยพิจารณาจาก

เอกสารและหลักฐานในการชําระเงินตามระบบ

การขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ จะขึ้นบัญชีไว้เป็นเวลาไม่เกิน ๒ ปี นับแต่วันประกาศขึ้นบัญชี เว้นแต่กรณีที่มีการเรียกผู้สอบแข่งขันมารายงานตัวเพื่อบรรจุแต่งตั้งภายในอายุบัญชีแล้ว แต่อยู่ในระหว่างการขอ

ความเห็นชอบการบรรจุแต่งตั้งผู้สอบแข่งขันได้ ให้ขยายอายุบัญชีผู้สอบแข่งขันได้นั้นออกไปอีกไม่เกิน

โดยถือเอาวันที่ไปรษณีย์ลงรับหรือการลงรับหนังสือตามระเบียบการนั้นเป็นหลักฐาน

การใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้เพื่อบรรจุและแต่งตั้ง

๑๑.๑ ผู้สอบแข่งขันได้ในตําแหน่งใดของบัญชีกลุ่มภาค/เขตใด จะได้รับการบรรจุและแต่งตั้ง เรียงตามลําดับที่ในบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ของกลุ่มภาค/เขต นั้น ในตําแหน่งที่สอบได้ โดยได้รับเงินเดือน ตามคุณวุฒิการศึกษาที่กําหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งนั้น ตามบัญชีตําแหน่งที่เปิดรับสมัครของ

๑๑.๒ การใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ โดยการรับรองบัญชีให้กระทําได้เฉพาะกรณีองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นมีตําแหน่งที่ประสงค์ใช้การรับรองบัญชีผู้สอบแข่งขันได้เป็นตําแหน่งว่างภายหลังระยะเวลาที่ กสถ. ประกาศรับสมัครสอบแข่งขันแล้ว และมีข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ตําแหน่งประเภททั่วไปในสังกัด เป็นผู้ได้รับการขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในตําแหน่งประเภทวิชาการ จึงจะสามารถขอหนังสือรับรองผู้สอบแข่งขันได้ ผู้นั้น เพื่อไปแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งที่สอบแข่งขันได้โดยมิต้องเรียงลําดับที่ภายหลังจากได้มีการประกาศขึ้นบัญชี ผู้สอบแข่งขันได้ครบ ๑ ปี โดยจะได้รับการบรรจุแต่งตั้งในตําแหน่งที่สอบได้ในระดับและเงินเดือนตามที่ระบุไว้ ในประกาศรับสมัครนี้ เท่านั้น

๑๑.๓ สําหรับผู้ที่สอบแข่งขันได้ที่เป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น หรือข้าราชการ ประเภทอื่นการใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ทุกกรณี จะรับโอนเฉพาะอายุราชการ โดยจะได้รับการบรรจุแต่งตั้ง ในตําแหน่งที่สอบได้ในระดับและเงินเดือนตามคุณวุฒิการศึกษาที่ระบุไว้ในประกาศรับสมัครนี้ เท่านั้น

๑๑.๔ ผู้สอบแข่งขันได้ เมื่อได้รับการบรรจุแต่งตั้งแล้วจะต้องดํารงตําแหน่งในองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นที่บรรจุแต่งตั้งอย่างน้อย ๒ ปี จึงจะโอนไปสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นหรือหน่วยงาน

๑๑.๕ บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในกลุ่มภาค/เขตใด ให้ใช้เพื่อบรรจุแต่งตั้งได้เฉพาะกลุ่มภาค/เขต นั้น เว้นแต่กลุ่มภาค/เขตนั้น ไม่มีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ หรือบัญชีผู้สอบแข่งขันได้นั้นมีการเรียกใช้บัญชีครบทั้งบัญชี แล้ว ก็อาจใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในตําแหน่งนั้นของบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ของกลุ่มภาค/เขตอื่นได้ตามที่ คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) กําหนด ดังนี้

๑๑.๕.๑ กรณีในกลุ่มภาคเดียวกันมีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ให้ใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ของ เขตที่อยู่ในกลุ่มภาคเดียวกันก่อน แต่หากในกลุ่มภาคนั้นมี ๓ เขต ให้ใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้เรียงตามลําดับเขต

(๑) ถ้าเขต ๑ ไม่มีบัญชีสอบผู้แข่งขันได้ในตําแหน่งใดให้ใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้

(๒) ถ้าเขต ๒ ไม่มีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในตําแหน่งใดให้ใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้

(๓) ถ้าเขต ๓ ไม่มีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในตําแหน่งใดให้ใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้

๑๑.๕.๒ กรณีในกลุ่มภาคเดียวกันไม่มีบัญชีผู้สอบแข่งขัน ให้ใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ในตําแหน่งนั้นในกลุ่มภาคอื่น โดยเรียงตามลําดับเขตเช่นเดียวกับข้อ ๑๑.๕.๑ ดังนี้

(๑) กลุ่มภาคเหนือไม่มีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในตําแหน่งใดให้ใช้บัญชี ผู้สอบแข่งขันได้ในตําแหน่งนั้นของกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กลุ่มภาคกลาง กลุ่มภาคใต้ ตามลําดับ

(๒) กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่มีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในตําแหน่งใด ให้ใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในตําแหน่งนั้นของกลุ่มภาคเหนือ กลุ่มภาคใต้ กลุ่มภาคกลาง ตามลําดับ

(๓) กลุ่มภาคกลางไม่มีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในตําแหน่งใดให้ใช้บัญชี ผู้สอบแข่งขันได้ในตําแหน่งนั้นของกลุ่มภาคใต้ กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กลุ่มภาคเหนือ ตามลําดับ

(๔) กลุ่มภาคใต้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในตําแหน่งใดให้ใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ในตําแหน่งนั้นของกลุ่มภาคกลาง กลุ่มภาคเหนือ กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามลําดับ

๑๑.๖ การอนุญาตให้ใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในตําแหน่งอื่นที่มีระดับสูงกว่ามาบรรจุแต่งตั้ง ในตําแหน่งที่มีระดับต่ํากว่า อยู่ภายใต้เงื่อนไขว่ากลุ่มภาค/เขตนั้นต้องไม่มีบัญชีผู้สอบได้ในตําแหน่งที่จะบรรจุ แต่งตั้ง และตําแหน่งที่ใช้จากบัญชีผู้สอบแข่งขันได้นั้น ต้องเป็นตําแหน่งที่เกี่ยวข้องเกื้อกูลกันกับตําแหน่งที่จะ บรรจุแต่งตั้ง ตามที่ ก.จ. ก.ท. และ ก.อบต. กําหนด และผู้นั้นมีคุณวุฒิการศึกษาที่ใช้ในการสมัครสอบแข่งขัน ที่เทียบได้ไม่ต่ํากว่าคุณวุฒิการศึกษาตามคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งและเป็นสาขาวิชาหรือทางที่ตรงกัน กับตําแหน่งที่จะบรรจุแต่งตั้ง โดยผู้นั้นต้องสมัครใจไปดํารงตําแหน่งที่มีระดับต่ํากว่าด้วย

การอนุญาตให้ใช้บัญชีตามวรรคหนึ่ง หากกลุ่มภาค/เขตใดไม่มีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ในกรณีดังกล่าว อาจใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในตําแหน่งนั้นของกลุ่มภาค/เขตอื่นได้ ตามข้อ ๑๑.๕

๑๒. การยกเลิกการขึ้นบัญชีเฉพาะราย

ผู้ใดได้รับการขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ถ้ามีกรณีอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้เป็นอัน

ยกเลิกการขึ้นบัญชีผู้นั้นในบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ดังนี้

๑๒.๑ ผู้นั้นได้ขอสละสิทธิรับการบรรจุและแต่งตั้ง เมื่อมีการเรียกรายงานตัวเพื่อบรรจุแต่งตั้ง ๑๒.๒ ผู้นั้นไม่มารายงานตัวเพื่อรับการบรรจุเข้ารับราชการภายในเวลาที่กําหนด โดยมี หนังสือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนแจ้งให้ทราบกําหนดเวลาล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๑๐ วัน นับตั้งแต่วันที่ที่ทําการ

๑๒.๓ ผู้นั้นมีเหตุไม่อาจเข้าปฏิบัติหน้าที่ราชการได้ตามกําหนดเวลาที่จะบรรจุและแต่งตั้ง

๑๒.๔ ผู้นั้นประสงค์จะรับการบรรจุและแต่งตั้งในตําแหน่งที่สอบแข่งขันได้โดยการโอน และ คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) ได้ประกาศเป็นเงื่อนไขแล้วว่าจะรับโอน เฉพาะอายุราชการ โดยจะได้รับการบรรจุและแต่งตั้งในตําแหน่งที่สอบได้ในระดับและเงินเดือนตามที่ระบุไว้ ในประกาศรับสมัครฉบับนี้ ผู้นั้นจึงไม่ประสงค์จะรับการบรรจุและแต่งตั้ง

๑๒.๕ ผู้นั้นได้รับการบรรจุและแต่งตั้งในตําแหน่งที่สอบได้ไปแล้ว ให้ยกเลิกการขึ้นบัญชี ผู้นั้นไว้ในบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในตําแหน่งอื่น

การยกเลิกการขึ้นบัญชีเฉพาะรายตามข้อ ๑๒.๓ เนื่องจากไปรับราชการทหาร ตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร เมื่อออกจากราชการทหารโดยไม่มีความเสียหายและประสงค์

จะเข้ารับราชการในตําแหน่งที่สอบได้และบัญชีผู้สอบแข่งขันได้นั้นยังไม่หมดอายุหรือยังไม่ยกเลิก ให้ขึ้นบัญชีผู้นั้นไว้

เป็นลําดับแรกที่จะบรรจุในครั้งต่อไป

เมื่อประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้แล้ว คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขัน

พนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) จะได้มีประกาศให้ผู้สมัครสอบสามารถดูคะแนนสอบได้ทางเว็บไซต์ https://dla- local2568.thaijobjob.com/ หัวข้อ “ดูผลคะแนนสอบ” โดยกรอกเลขประจําตัว ๑๓ หลัก และเลขประจําตัวสอบ ๑๓.๒ การประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ของคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขัน พนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) ให้ถือเป็นที่สุด ผู้สอบไม่มีสิทธิขอให้ทบทวนแต่ประการใด

คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) ดําเนินการสอบแข่งขันด้วย ความสุจริต และเที่ยงธรรม ดังนั้น หากมีบุคคลกลุ่มใดหรือผู้ใดแอบอ้างว่าสามารถช่วยเหลือให้ผู้สมัครสอบ ให้สอบแข่งขันได้ หรือมีพฤติการณ์ในทํานองเดียวกันนี้ โปรดอย่าได้หลงเชื่อ และให้แจ้งสํานักงานคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สํานักงาน ป.ป.ช.) สํานักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต ในภาครัฐ (สํานักงาน ป.ป.ท.) กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) หรืออธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น หรือ

อนึ่ง ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการรับสมัครสอบแข่งขันในครั้งนี้ ได้ทางเว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com/ หรือ http://www.dla.go.th

(นายคํารณ โกมลศุภกิจ) ประธานกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น

สรุปตำแหน่งว่างที่เปิดสอบทั่วประเทศ
เลื่อนลงด้านล่าง

สอบท้องถิ่น 2568

เครื่องมือช่วยค้นหาสมัครสอบท้องถิ่น 2568

คลิก!! ค้นหาตำแหน่งที่ตรงกับคุณวุฒิ

คลิก!! จังหวัด ในกลุ่มภาค/เขต

คลิก!! ตำแหน่งที่เปิดสอบแต่ละภาค/เขต

คลิก!! คุณวุฒิเฉพาะสำหรับตำแหน่ง

คลิก!! วิชาที่สอบแต่ละตำแหน่ง

คลิก!! ดาวน์โหลดประกาศ-เว็บรับสมัครสอบ-แนบท้ายประกาศ

ลิงค์สำคัญที่เกี่ยวกับการสอบท้องถิ่น 2568

สรุปอัตราว่างสอบท้องถิ่น 2568

สรุปตำแหน่งว่างที่เปิดสอบทั่วประเทศ เลื่อนลงด้านล่าง